มะเร็งรังไข่

มะเร็งรังไข่

กลุ่มเสี่ยง

กลุ่มของมะเร็งรังไข่ชนิดเยื่อบุ พบมากในกลุ่มคนอายุมากกว่า 50-60 ปี  แต่มะเร็งรังไข่ทั่วไปสามารถพบได้ในเด็ดอายุน้อยกว่า 20 ปี  โดยปัจจัยทางพันธุกรรมมีส่วนเกี่ยวข้องประมาณ 20%  ความเสี่ยงจะอยู่ที่กลุ่มผู้หญิงที่มีการตกไข่ต่อเนื่อง โดยไม่เว้นพักการตกไข่  เช่น การตั้งครรภ์  หรือในกลุ่มคนที่ทานยาคุมกำเนิด ซึ่งไปยังย้งการตกไข่   เพราะฉะนั้น กลุ่มคนที่ทานยาคุมกำเนิดมีการศึกษาพบว่า เป็นมะเร็งรังไข่น้อยกว่ากลุ่มคนที่ไม่ได้ทานยาคุมกำเนิด

อาการที่พึงระวัง

ปกติการปวดประจำเดือนจะมี 2 ลักษณะคือ ปวดวันแรก หรือก่อนมีประจำเดือน 1 วัน ซึ่งหลังจากนั้นอาการจะดีขึ้น  หรือเมื่อไปออกกำลังกายแล้วอาการดีขึ้น หรือปวดเล็กน้อย แต่สามารถทำงาน และใช้ชิวิตประจำวันได้  แต่หากมีอาการปวดตั้งแต่ประจำเดือนมาจนกระทั่งหมด  หรือปวดรุนแรงจนตัวบิดตัวงอ ต้องรีบไปปรึกษาแพทย์ รวมไปถึงคนที่เคยตรวจพบว่าเป็นโรคนี้ด้วย

ลักษณะของโรค

เยื่อบุมดลูดเป็นเยื่อที่อยู่ภายในมดลูก เมื่อใกล้ระยะเวลาไข่สุก เยื่อบุโพรงมดลูกก็จะหนาขึ้น เพื่อรอการปฏิสนธิ แต่หากไม่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้นในแต่ละเดือน เยื่อบุโพรงมดลูกจะลอกหลุดออกมาพร้อมกับเลือด กลายเป็นประจำเดือน  ส่วนโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่นั้น เกิดจากการที่มีเนื้อเยื่อเกิดขึ้นนอกมดลูกตามที่ต่าง ๆ เช่น บริเวณรังเวณรังไข่ เมื่อมีประจำเดือน เยื่อบุมดลูกจะขยายตัว กรณีที่ไปอยู่ในบริเวณที่มีเส้นประสาทรองรับ เช่น อยู่ด้านหลังมดลูก ก็จะทำให้เกิดอาการปวดท้อง ประจำเดือน และเสี่ยงต่อการเป็นหมันได้ ทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลว่าจะไม่สามารถมีบุตรได้

ส่วนการเกิดมะเร็งในรังไข่ ซึ่งมีความร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตนั้น มีสาเหตุเริ่มต้นมาจากกากรปวดประจำเดือนหลังคลอดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญผิดที่ หากอักเสบเรื้อรังไม่ได้รับการรักษาก็จะเปลี่ยนไปเป็นโรคมะเร็งได้  โดยเซลล์มะเร็งจะทำให้ท้องน้อยขยายใหญ่ขึ้น และมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง แม้จะไม่ใช่เวลาของการมีประจำเดือนก็ตาม ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายบ่งบอกถึงอาการของโรคมะเร็งรังไข่ ซึ่งลักษณะพิเศษของมะเร็งรังไข่ก็คือ เซลล์มะเร็งจะแพร่ขยายอย่างรวดเร็ว และเเนื่องจากมีอาการแสดงให้เห็นน้อยทำให้ไม่สามารถสังเกตุได้ง่าย  ทำให้หลายคนที่เป็นโรคนี้ กว่าจะตรวจรู้ว่าเป็นมะเร็งก็ลุกลามไปถึงปอดแล้ว  ส่วนสาเหตุของมะเร็งที่รังไข่นั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่าการบริโภคไขมันจากสัตว์ในปริมาณมาก เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดมะเร็งรังไข่

อาการของโรคมะเร็ง แบ่งออกเป็น 4 ระยะ  ระยะที่ 1 ตัวมะเร็งจะอยู่เฉพาะในรังไข่ ซึ่งสามารถรักษาได้โดยการผ่าตัด แต่ส่วนใหญ่มักจะตรวจไม่พบในระยะแรก โดยกว่า 70% ของมะเร็งรังไข่จะตรวจพบเมื่อเชื้อมะเร็งเข้าสู่ระยะที่ 3 หรือ 4 ไปแล้ว เนื่องจากระยะแรก ๆ มักจะไม่มีอาการใดปรากฏให้เห็น จนกระทั่งระยะที่ 3 เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งกระจายเข้าไปในเยื่อบุช่องท้องแล้ว และเข้าไปสร้างสารน้ำต่าง ๆ ทำให้ท้องของคนไข้ขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีน้ำในท้อง มีอาการตึงและแข็ง ส่วนระยะที่ 4 เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งกระจายอย่างรวดเร็วไปที่ปอด

วิธีการรักษา

เนื่องจากมะเร็งเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้  แต่สามารถป้องกัน หรือยับยั้งการเกิดโรคได้หากพบอาการผิดปกติ เช่น มีอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง หรือคนที่พบว่าเป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย และรักษาแต่เนิ่น ๆ ซึ่งการตรวจมะเร็งรังไข่ แพทย์จะตรวจวัดค่าของสาร CA125  ซึ่งเป็นสารที่ผลิตออกมาจากเยื่อบุอวัยวะในร่างกายเรา เช่น ตับอ่อน  รวมถึงที่รังไข่ด้วย  โดยค่าปกติจะอยู่ที่ 0-35 ยูนิตต่อมิลลิลิตร แต่อาจมีค่าปกติที่สูงกว่านี้ แต่เป็นค่าปกติที่ไม่ได้เป็นมะเร็งก็ได้  ถ้าคนที่เป็นมะเร็งรังไข่ไปตรวจเพื่อวัดค่ามะเร็ง ค่าจะสูงมากกว่า 35 แต่กรณีเป็นมะเร็งในระยะที่ 1  บางทีอาจจะไม่แสดงอาการ ซึ่งหมอสามารถจะตรวจสาร CA125 เพื่อช่วยวางแผนในการผ่าตัดเผื่อในกรณีการเป็นมะเร็งไว้ด้วย เพราะลักษณะการผ่าตัดจะไม่เหมือนกัน

รู้ไว้ ห่างไกลโรค

หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานผักผลไม้เป็นประจำ ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ ลดการรรับประทานอาหารที่มีไขมันจากสัตว์  เพราะการรับประทานไขมันจากเนื้อสัตว์ในปริมาณมาก เป็นปัจจัยร่วมอย่างหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็งในรังไข่

** จำนวน ผู้ตายจากมะเร็งรังไข่นั้น มีถึง 4000 คนต่อปี  และเพิ่มจำนวนขึ้นถึง 8 เท่าในรอบ 50 ปี ส่วนใหญ่แล้วโรคเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบนี้เป็ฯโรคที่ไม่ร้ายแรง แต่ไม่ควรประมาท ถ้าปล่อยปละละเลยไม่รีบรักษา อาจจะพัฒนาไปสู่โรคมะเร็งรังไข่ได้ **

 (ที่มา :  เวิร์คพอยท์, รู้ไว้ ไกลโรค, ข้อมูลทางการแพทย์ : คณะแพทย์ เครือโรงพยาบาลพญาไท, สค.2556)